เมื่อเรา การสกรีนเสื้อ ผู้คนมักนึกถึงแค่ การพิมพ์ลายแล้วรีดให้ติดบนผ้า แต่จริง ๆ แล้ว โลกของการสกรีนเสื้อ มีความหลากหลายกว่าที่คิด และมีวิธีการหลากหลายให้เลือก ขึ้นอยู่กับว่า แบบของงานที่ต้องการคืออะไร ใช้กับผ้าอะไร ความคงทนที่ต้องการเป็นเท่าไร แม้แต่ ความรู้สึกตอนสัมผัส ลวดลายบนเสื้อ ก็มีผลเช่นกัน คนที่เพิ่งเริ่มสนใจก็มักจะสงสัยว่า "สกรีนเสื้อมีกี่แบบ" จริง ๆ แล้ว คนบางคนอาจเคยได้ยินคำว่า "สกรีนจม" และ "สกรีนลอย" แต่ไม่แน่ใจว่าต่างกันอย่างไร วันนี้ ผมจะเล่าให้ฟังแบบยาว ๆ ครบถ้วนตั้งแต่พื้นฐาน เพื่อให้คุณเลือกเทคนิคที่เหมาะกับงานของคุณได้อย่างมั่นใจ.
(https://i.postimg.cc/cLnmxwCN/11.jpg) (https://ho-shi.com/%e0%b8%aa%e0%b8%81%e0%b8%a3%e0%b8%b5%e0%b8%99%e0%b9%80%e0%b8%aa%e0%b8%b7%e0%b9%89%e0%b8%ad%e0%b8%a1%e0%b8%b5%e0%b8%81%e0%b8%b5%e0%b9%88%e0%b9%81%e0%b8%9a%e0%b8%9a/)
มาเริ่มกันที่ คำถามยอดฮิต อันดับแรกเลยว่า "สกรีนเสื้อมีกี่แบบ" เอาจริง ๆ แล้ว ถ้านับรวมทุกเทคนิคในปัจจุบัน มีจำนวนเยอะมาก แต่ถ้าแบ่งแบบหลัก ๆ ที่นิยมใช้กัน ก็จะมี การพิมพ์ซิลค์สกรีน, การพิมพ์ฮีตทรานเฟอร์, การพิมพ์ซับลิเมชัน, DTG (Direct to Garment), การพิมพ์ DTF, เฟล็กซ์ (Flex) นอกจากนี้ยังมี วิธีการย่อย ๆ อย่าง ปั๊มนูน, พัฟสกรีน, ฟอยล์ และอื่น ๆ แต่ละแบบก็จะมี ลักษณะเฉพาะ, จุดเด่นจุดด้อย, ความคงทน, และต้นทุน ที่แตกต่างกันไป อย่างเช่น ซิลค์สกรีนเหมาะกับการผลิตในปริมาณมาก เพราะต้นทุนต่อชิ้นถูกและสีทน แต่ต้องทำบล็อกก่อน ส่วน DTG จะพิมพ์ลงบนผ้าโดยตรง เหมาะกับงานที่ต้องการความละเอียดสูงและจำนวนไม่มาก เนื่องจากไม่จำเป็นต้องทำบล็อก สามารถพิมพ์ได้ทันทีจากไฟล์ ส่วน DTF ก็กำลังฮิต เพราะสามารถพิมพ์ลงฟิล์มแล้วรีดลงผ้าได้หลากหลายชนิด สีสวยสดและทนทานสูง
(https://i.postimg.cc/j5sQ41Xs/22.jpg) (https://ho-shi.com/%e0%b8%aa%e0%b8%81%e0%b8%a3%e0%b8%b5%e0%b8%99%e0%b9%80%e0%b8%aa%e0%b8%b7%e0%b9%89%e0%b8%ad%e0%b8%a1%e0%b8%b5%e0%b8%81%e0%b8%b5%e0%b9%88%e0%b9%81%e0%b8%9a%e0%b8%9a/)
ทีนี้มาถึงเรื่องที่หลายคนสับสน "สกรีนจม คือ อะไร" สกรีนจม หมายถึง เทคนิคการพิมพ์ที่ทำให้หมึกซึมเข้าเส้นใยผ้า ทำให้เวลาสัมผัสผิวผ้าจะรู้สึกเรียบเนียน ราวกับไม่มีลายอยู่ด้านบน ตัวอย่างเช่น การพิมพ์ซับลิเมชันกับผ้าโพลีเอสเตอร์ หรือซิลค์สกรีนที่ใช้หมึกเฉพาะแบบ หมึกจะซึมเข้าไปในผ้า พอซักก็ยังอยู่เหมือนเดิม เพราะมันไม่ได้ลอกออกง่าย ความรู้สึกเวลาสวมใส่จะสบาย เพราะไม่มีหมึกนูนให้รู้สึก ข้อดีคือทนต่อการซักมาก สีไม่หลุดง่าย เหมาะกับงานที่เน้นความคงทนในระยะยาว
(https://i.postimg.cc/ZqPx3m67/33.jpg) (https://ho-shi.com/%e0%b8%aa%e0%b8%81%e0%b8%a3%e0%b8%b5%e0%b8%99%e0%b9%80%e0%b8%aa%e0%b8%b7%e0%b9%89%e0%b8%ad%e0%b8%a1%e0%b8%b5%e0%b8%81%e0%b8%b5%e0%b9%88%e0%b9%81%e0%b8%9a%e0%b8%9a/)
ในทางตรงกันข้าม "
สกรีนลอย คือ" การสกรีนที่ทำให้หมึกหรือลายสกรีนอยู่บนผิวผ้า แบบเห็นได้ชัดว่ามีความนูนขึ้นมา ลูบแล้วสัมผัสได้ถึงความต่างระดับ ตัวอย่างเช่นการใช้หมึกพัฟ (Puff Ink) ซึ่งเมื่ออบแล้วหมึกจะฟูขึ้นมานุ่มนวล หรือการใช้เฟล็กซ์ โดยตัดฟิล์มเป็นลวดลายแล้วรีดให้ติดบนผ้า ข้อดีของสกรีนลอยคือ ลายดูโดดเด่น สีสด พร้อมทั้งทำเอฟเฟกต์พิเศษได้ เช่น ความเงา, ความนูน หรือแม้แต่พื้นผิวที่มีเท็กซ์เจอร์ ข้อเสียคือ หากดูแลไม่เหมาะสมหรือซักแรงเกินไป จะทำให้หมึกแตกหรือฟิล์มหลุดง่ายกว่าแบบสกรีนจม
(https://i.postimg.cc/wBYk7MRR/44.jpg) (https://ho-shi.com/%e0%b8%aa%e0%b8%81%e0%b8%a3%e0%b8%b5%e0%b8%99%e0%b9%80%e0%b8%aa%e0%b8%b7%e0%b9%89%e0%b8%ad%e0%b8%a1%e0%b8%b5%e0%b8%81%e0%b8%b5%e0%b9%88%e0%b9%81%e0%b8%9a%e0%b8%9a/)
การพิจารณาว่าจะใช้สกรีนจมหรือสกรีนลอย ขึ้นกับความต้องการงาน ถ้าอยากได้เสื้อที่ใส่สบาย ลายไม่เกะกะผิวผ้า และทนต่อการซักระยะยาว สกรีนจมก็เป็นตัวเลือกที่ดี แต่ถ้าต้องการงานที่โดดเด่น มีลูกเล่น พร้อมโชว์ลายเด่นชัด สกรีนลอยถือว่าน่าสนใจ และปัจจุบันยังมีการผสมผสานทั้งคู่ ในเสื้อตัวเดียว เพื่อให้ได้ทั้งความทนทานและความสวยงาม
ในประสบการณ์ของผม หลายคนที่มาสั่งทำเสื้อกับร้านสกรีน มักไม่รู้ว่ามีตัวเลือกเยอะขนาดไหน เมื่อถามคำว่า สกรีนเสื้อมีกี่แบบ ก็มักได้รับคำตอบแบบกว้าง ๆ โดยไม่รู้รายละเอียดจริง ๆ ซึ่งถ้าเข้าใจเรื่องนี้ตั้งแต่แรก เราก็จะสามารถสื่อสารกับร้านได้ชัดขึ้น เช่น ถ้าอยากทำเสื้อทีมฟุตบอลที่ต้องซักบ่อยและไม่อยากให้ลายลอก ก็อาจเลือกสกรีนจมโดยใช้หมึกซึมเส้นใย แต่ถ้าต้องการเสื้อแฟชั่นที่เน้นโชว์ลาย ก็อาจเลือกสกรีนลอย หรือใช้เฟล็กซ์แบบเงาเพิ่มลูกเล่น
ผมเคยเจองานเสื้อยืดพรีเมียม ใช้เทคนิคซิลค์สกรีนหมึกน้ำลงบนผ้าฝ้ายจนหมึกซึมเข้าไปในเนื้อผ้า จนกลายเป็นสกรีนจมเนียนมาก หลังซักก็ไม่ซีด และใส่สบายเพราะผ้ายังหายใจได้ แฟชั่นสตรีทหลายแบรนด์เลือกใช้หมึกพัฟหรือเฟล็กซ์ เพื่อให้เกิดสกรีนลอยมีมิติ เวลามองหรือจับจะรู้สึกว่ามันพิเศษกว่าเสื้อพิมพ์ธรรมดา
อีกอย่างที่หลายคนไม่รู้คือ สกรีนจมกับสกรีนลอยไม่ใช่เทคนิคตายตัวที่เลือกได้แค่แบบเดียว บางครั้งช่างสกรีนสามารถปรับสูตรหมึกหรือขั้นตอนการพิมพ์ เพื่อให้ได้สกรีนกึ่งจมกึ่งลอย อย่างเช่นหมึกซึมเพียงบางส่วน แต่ยังคงเหลือชั้นบาง ๆ บนผิวให้เห็นความนูนเล็กน้อย ทำให้มีทั้งความคงทนและความรู้สึกต่างเวลาสัมผัส
แล้วถ้าเรามองในแง่การใช้งานจริง การรู้ว่าสกรีนเสื้อมีกี่แบบ ก็จะช่วยให้เราประเมินราคาได้ถูกด้วย เพราะแต่ละเทคนิคมีต้นทุนต่างกัน ตัวอย่างเช่นซิลค์สกรีนถ้าทำปริมาณเยอะจะราคาถูก แต่ถ้าทำเพียงไม่กี่ตัว DTG หรือ DTF จะคุ้มกว่าเพราะไม่ต้องทำบล็อก บางประเภทของสกรีนลอยต้องใช้เครื่องตัดเฟล็กซ์และเครื่องรีดความร้อนคุณภาพสูง เพื่อให้ฟิล์มติดแนบแน่นและไม่หลุดลอกง่าย สกรีนจมบางประเภทต้องใช้เครื่องอบและหมึกพิเศษซึ่งมีราคาสูง
ในมุมมองของคนที่ชอบเสื้อสกรีนและเคยทำขายด้วย ผมเห็นว่าความเข้าใจพื้นฐานพวกนี้สำคัญจริง ๆ ถ้าเข้าใจว่าสกรีนจม คือ อะไร สกรีนลอย คือ (https://ho-shi.com/%e0%b8%aa%e0%b8%81%e0%b8%a3%e0%b8%b5%e0%b8%99%e0%b9%80%e0%b8%aa%e0%b8%b7%e0%b9%89%e0%b8%ad%e0%b8%a1%e0%b8%b5%e0%b8%81%e0%b8%b5%e0%b9%88%e0%b9%81%e0%b8%9a%e0%b8%9a/) อะไร และสกรีนเสื้อมีกี่แบบ จะทำให้สั่งงานได้แม่นตรงตามต้องการ และไม่ผิดหวังเมื่อได้รับของ โดยเฉพาะถ้าเจอร้านที่อธิบายและให้คำแนะนำอย่างตรงไปตรงมา พร้อมอธิบายข้อดีข้อเสียของแต่ละเทคนิคชัดเจน เราก็จะได้งานที่ตอบโจทย์ทั้งคุณภาพ ความสวยงาม และราคา
จริง ๆ แล้วการเลือกเทคนิคสกรีนก็เหมือนการเลือกวัตถุดิบทำอาหาร เลือกถูกตั้งแต่ต้น ผลงานก็จะดีและตรงใจ เสื้อสกรีนดี ๆ ไม่ใช่แค่สวยตอนซื้อใหม่ แต่ต้องสวยทนไปนาน ดังนั้นการรู้ความต่างของสกรีนจมกับสกรีนลอยจึงเป็นพื้นฐานที่คนทำเสื้อควรรู้
ข้อมูลติดต่อร้าน HOSHI KAIZEN
เบอร์โทรศัพท์: 098‑384‑5455
(ช่วงเวลาทำการ: 09:00 – 23:00 น. ทุกวัน)
LINE Official: @ho‑shi
เว็บไซต์ : www.ho-shi.com (https://ho-shi.com/%e0%b8%aa%e0%b8%81%e0%b8%a3%e0%b8%b5%e0%b8%99%e0%b9%80%e0%b8%aa%e0%b8%b7%e0%b9%89%e0%b8%ad%e0%b8%a1%e0%b8%b5%e0%b8%81%e0%b8%b5%e0%b9%88%e0%b9%81%e0%b8%9a%e0%b8%9a/)
(สามารถติดต่อเพื่อขอใบเสนอราคา หรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ตลอดเวลา)
อีเมล:
[email protected]