&&กรดไหลย้อนกินอะไรหาย แนะนำอาหารช่วยบรรเทาอาการโดยสวัสดิภาพรวมทั้งยืนนาน

[kaidee20]

กรดไหลย้อนเป็นปัญหาสุขภาพที่มักพบในตอนนี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกลุ่มคนวัยทำงานที่มีความประพฤติการใช้ชีวิตไม่สมดุล ยกตัวอย่างเช่น การทานอาหารไม่เป็นเวลา การกินของกินเร่งรีบ การนอนหลังกินอาหารโดยทันที รวมทั้งความเคร่งเครียดที่สะสมในวันแล้ววันเล่า ลักษณะของกรดไหลย้อนนั้นสร้างความป่วยไข้ตัวให้แก่ผู้ป่วยไม่น้อย เช่น แสบร้อนกึ่งกลางอก เรอเปรี้ยว รู้สึกแน่นท้อง หรือจุกรอบๆลิ้นปี่ ซึ่งถ้าหากปลดปล่อยไว้นานโดยไม่ปรับพฤติกรรมหรือเลือกของกินที่เหมาะสมก็บางทีอาจแปลงเป็นปัญหาเรื้อรังได้ ปริศนาที่พบได้บ่อยจากคนที่กำลังพบเจอกับโรคนี้เป็น "กรดไหลย้อนกินอะไรหาย" ซึ่งเป็นหัวข้อสำคัญที่ถ้าเกิดเข้าใจแล้วก็ประยุกต์ได้ถูกจะช่วยทุเลาอาการได้อย่างมีคุณภาพ



คลิ๊กอ่านรายละเอียดได้ตามนี้ >> กรดไหลย้อนกินอะไรหาย https://www.poonrada.com/sickness/detail/58

อาหารที่เหมาะสำหรับคนเจ็บกรดไหลย้อนควรเน้นย้ำไปที่อาหารที่ย่อยง่าย มีไขมันต่ำ ไม่กระตุ้นการหลั่งกรดในกระเพาะอาหาร และไม่ทำให้กล้ามเนื้อหูรูดหลอดอาหารข้างล่างคลายตัว ของกินประเภทข้าวต้ม ซุปใส ข้าวซ้อมมือต้ม ผักต้มสุก กล้วยน้ำว้า แอปเปิลเขียว และขิง จัดว่าเป็นของกินที่ปลอดภัยรวมทั้งช่วยลดอาการกรดไหลย้อนก้าวหน้า ยิ่งไปกว่านี้ขิงยังมีฤทธิ์ต้านทานการอักเสบตามธรรมชาติ รวมทั้งช่วยให้ระบบที่ทำหน้าที่สำหรับการย่อยอาหารดำเนินงานเจริญขึ้น ลดอาการท้องอืดและก็แน่นท้องได้อีกด้วย ซึ่งถือเป็นสมุนไพรที่เสนอแนะเป็นอย่างมากสำหรับผู้มีปัญหานี้

การเลือกทานอาหารที่เหมาะสมในแต่ละมื้อควรเริ่มจากการลดจำนวนของกินแต่ว่าเพิ่มความถี่สำหรับในการรับประทาน อาทิเช่น แบ่งของกินออกเป็น 4-5 มื้อต่อวัน เพื่อเป็นการป้องกันไม่ให้กระเพาะอาหารต้องแบกภาระหนักจนเกินความจำเป็น ควรจะเลี่ยงของกินทอด อาหารมันจัด อาหารรสจัด อาหารหมักดอง รวมถึงช็อกโกแลต กาแฟ เครื่องดื่มที่มีส่วนผสมที่เป็นแอลกอฮอล์ แล้วก็น้ำอัดลม เพราะสิ่งกลุ่มนี้เป็นตัวกระตุ้นสำคัญที่ทำให้กล้ามหูรูดหลอดของกินอ่อนล้า แล้วก็นำมาซึ่งการทำให้น้ำย่อยไหลย้อนไปขึ้นไปในหลอดของกินได้ง่าย



ในช่วงที่มีลักษณะอาการมาก ผู้เจ็บป่วยควรจะให้ความสำคัญกับของกินอ่อน ดังเช่นว่า โจ๊กข้าวกล้องกับเนื้อปลา หรือไก่ต้มสุกที่ไม่มีมัน พร้อมด้วยผักต้มเป็นต้นว่าฟักทอง แครอท หรือตำลึงที่มีใยอาหารช่วยทำให้ระบบขับถ่ายดีขึ้น และลดการสะสมก๊าซในกระเพาะก้าวหน้า แม้ต้องการเพิ่มรสชาติสามารถใช้ขิงหรือขมิ้นชันเป็นองค์ประกอบในของกินซึ่งนอกเหนือจากที่จะช่วยในการย่อยแล้วยังมีฤทธิ์ฆ่าเชื้อแบคทีเรียบางประเภทในกระเพาะอีกด้วย การปรับพฤติกรรมการกินร่วมกับการเลือกอาหารที่สมควรจะช่วยลดความร้ายแรงของอาการได้อย่างได้ผลภายในระยะเวลาไม่กี่อาทิตย์

อีกหนึ่งหลักสำคัญที่คนไข้กรดไหลย้อนต้องระวังคือการกระทำหลังมื้อของกิน ดังเช่นว่า การนอนราบโดยทันทีข้างหลังกิน การโน้มตัวลง การออกกำลังกายหนักๆหรือการใส่เสื้อผ้ารัดแน่นบริเวณเอว ซึ่งล้วนเป็นต้นสายปลายเหตุที่เพิ่มแรงดันในท้องแล้วก็รีบให้เกิดการไหลย้อนของกรดกลับขึ้นไปสู่หลอดของกิน ถ้าหากจำเป็นจะต้องนอนข้างหลังมื้ออาหารควรจะเว้นระยะห่างขั้นต่ำ 2-3 ชั่วโมง และหนุนหมอนให้หัวสูงนิดหน่อย เพื่อป้องกันการไหลย้อนของกรดขณะที่กำลังนอนหลับ



ในกรณีที่ลักษณะของกรดไหลย้อนเรื้อรังจนกระทั่งก่อกวนการใช้ชีวิตประจำวัน บางทีอาจจะต้องใคร่ครวญการดูแลเพิ่มอีกด้วยสมุนไพรที่มีคุณประโยชน์สำหรับเพื่อการฉาบกระเพาะรวมทั้งลดกรด เช่น ว่านหางจระเข้ สมอไทย ใบบัวบก และกระเจี๊ยบแดง โดยควรที่จะทำการเลือกใช้สินค้าจากแหล่งที่เชื่อถือได้ แล้วก็หลีกเลี่ยงผลิตภัณฑ์ที่มีน้ำตาลสูงหรือสารแต่งกลิ่นแต่งรส ซึ่งอาจจะส่งผลให้เกิดการเคืองกระเพาะเยอะขึ้นเรื่อยๆ ดังนี้การใช้สมุนไพรควรจะอยู่ภายใต้คำเสนอแนะของผู้ที่มีความเชี่ยวชาญทางด้านการแพทย์แผนไทยเพื่อให้เกิดความปลอดภัยและคุณภาพสูงสุด

กรดไหลย้อนแม้ว่าจะเป็นภาวการณ์ที่ไม่รุนแรงถึงขั้นทำให้เป็นอันตรายในทันที แม้กระนั้นถ้าหากปล่อยให้เป็นเรื้อรังและไม่ดูแลตัวเองอย่างเหมาะควรบางทีอาจนำไปสู่ภาวะแทรกซ้อน อย่างเช่น หลอดของกินอักเสบ แผลในหลอดของกิน หรือได้โอกาสปรับปรุงเป็นเซลล์แตกต่างจากปกติได้ในระยะยาว ซึ่งนับว่าเป็นภาวะเสี่ยงที่ไม่ควรละเลย การให้ความสนใจเรื่องของกินจึงเป็นด่านแรกของการป้องกันและก็รักษากรดไหลย้อนอย่างมีคุณภาพ

ดังนั้นผู้ที่มีลักษณะอาการกรดไหลย้อนควรให้ความเอาใจใส่กับการปรับพฤติกรรมการกิน เลือกของกินที่ย่อยง่าย ลดอาหารมันจัดและรสจัด งดเว้นเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีนหรือแอลกอฮอล์ รวมทั้งเลือกของกินที่มีใยอาหารสูงรวมทั้งมีคุณสมบัติสำหรับการลดกรดร่วมด้วย การเลือกทานอาหารอย่างถูกต้องไม่เฉพาะแต่ช่วยบรรเทาอาการแค่นั้น แม้กระนั้นยังสามารถช่วย



แหล่งที่มา บทความ กรดไหลย้อนกินอะไรหาย https://www.poonrada.com/sickness/detail/58